CHOMPHU CIVET COFFEE
หลายคนที่หลงใหลในรสชาติและความหอมของกาแฟ
และเป็นที่รู้จักกันดีของเหล่าคอกาแฟแฟนพันธุ์แท้ว่า “กาแฟขี้ชะมด”
เป็นกาแฟที่มีรสชาติดีและแพงที่สุดในโลก ซึ่งบางคนนั้นคิดว่ากาแฟเลิศรสแบบนี้จะต้องเป็นของเมืองนอกเพียงเท่านั้น
หรือคิดว่าต้องเป็นกาแฟขี้ชะมดจากต้นกำเนิดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ที่ประเทศไทยของเรานี่เองที่เป็นแหล่งผลิตกาแฟขี้ชะมด
และเป็นแหล่งปลูกต้นกาแฟชั้นดีระดับโลก เช่นกาแฟดอยช้าง กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า(Arabica)
นอกจากกาแฟขี้ชะมดทางภาคใต้ที่จังหวัดชุมพรแล้ว
ภาคเหนือจังหวัดเชียงรายก็มีกาแฟขี้ชะมดทั้งแบบกาแฟขี้ชะมดป่า
ที่ชะมดหรืออีเห็นมากินผลกาแฟในไร่แล้วถ่ายมูลทิ้งไว้ แล้วเจ้าของไร่กาแฟเก็บรวบรวมได้แต่เป็นปริมาณน้อยจึงเป็นของหายาก
และมีแบบที่เลี้ยงขยายสายพันธุ์ชะมดไว้เอง
โดยชะมดที่เลี้ยงกันนั้นเป็นชะมดพันธุ์อีเห็นข้างลาย อีเห็นข้างลาย
"ไม่ได้"ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
พุทธศักราช 2546
ปัจจุบันทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้มีโครงการในการเพาะเลี้ยงอีเห็นข้างลาย เพื่อผลิต
"กาแฟขี้ชะมด" ซึ่งเป็นกาแฟที่ได้จากมูลของอีเห็นข้างลาย
มีราคาซื้อขายที่สูงมาก ราคาขึ้นอยู่กับว่าได้มาจากชะมดเลี้ยงหรือชะมดป่า
และระยะเวลาในการบ่มเก็บกาแฟ ยิ่งบ่มนานยิ่งมีรสชาติดี คล้ายกับการบ่มไวน์ โดยขายทั้งในและต่างประเทศ
โดยเฉพาะ มาเลเซีย เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน
จีน
กาแฟที่ใช้เป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า(Arabica) จ.เชียงราย ปลูกในสภาพพื้นที่ธรรมชาติ
พื้นดินอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ สภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี กาแฟอาราบิก้า
ขึ้นชื้อในเรื่องกลิ่นหอมกว่าสายพันธุ์อื่น โดยกาแฟชนิดนี้จะมีปริมาณของคาเฟอีนต่ำ
เป็นกาแฟที่มีคุณภาพสูง เหมาะกับการทำกาแฟสดทั้งร้อนและเย็น
ด้วยการผสมผสานกันอย่างลงตัวจากกาแฟอาราบิก้าสายพันธุ์ดีและเอนไซม์ที่เกิดจากการผ่านการย่อยในท้องของชะมด
รวมไปถึงการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน
จนกระทั่งกระบวรการบ่มเก็บและการคั่วที่ได้รับการเอาใจใส่ทุกขั้นตอน
จึงได้กาแฟขี้ชะมดที่มีรสชาติดี
คุณภาพคับแก้ว
กาแฟขี้ชะมดนั้นนิยมดื่มแบบ
กาแฟดำ หรือชงแบบดริป เพื่อลิ้มรสกาแฟชะมดแท้จริง หากเพิ่มเติมนมหรือครีมเทียมจะทำให้รสชาติเพี้ยนไป
สำหรับกระบวนการผลิตกาแฟขี้ชะมดนั้น
เริ่มจากตัวชะมดมากินผลกาแฟสุกแล้วถ่ายมูลไว้
จากนั้นชาวไร่ก็จะเก็บมูลชะมดไปตากแดดให้แห้งใช้ระยะเวลา 7-10 วันในการตาก
เมื่อมูลชะมดแห้งดีแล้วก็เก็บมูลชะมดไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยใช้ระยะเวลา 10 เดือน ในการบ่มในอุณหภูมิที่เหมาะสม
ต่อมาเนื่องจากผู้ผลิตเล็งเห็นว่ามูลกาแฟชะมดป่านั้นอาจสะอาดไม่ถูกสุขอนามัย
ในด้านของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆทั้งตัวชะมดป่าและมูลของมันที่ตกอยู่ตามพื้น จึงมีการเพาะเลี้ยงและขยายสายพันธุ์ชะมดไว้เอง โดยสร้างเป็นโรงชะมดขึ้นมา และมีบริเวณให้ชะมดเลี้ยงได้วิ่งเล่น เพื่อควบคุมคุณภาพและขั้นตอนการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
สายพันธ์ชะมดที่นำมาเลี้ยงและขยายสายพันธุ์นั้นเป็นพันธุ์อีเห็นข้างลาย ขั้นตอนในการผลิตกาแฟขี้ชะมดนั้นค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อนและต้องอาศัยความพิถีพิถันในกระบวนการผลิต
ซึ่งในปีหนึ่งๆก็ผลิตได้ไม่มากนัก เนื่องจากเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวกาแฟ (ระยะเวลา 2-3 เดือนต่อปีเท่านั้น) ต้องเก็บมาให้ชะมดแบบวันต่อวัน เพราะชะมดเลือกทานแต่ผลสดเท่านั้น ผลที่เก็บไว้ข้ามวันนั้นชะมดจะไม่ทานเลย
โดยกาแฟสายพันธุ์ที่เราเอาให้ชะมดทาน คือกาแฟพันธุ์อาราบิก้า (Arabica)
ชะมดเป็นสัตว์กลางคืน จะออกมาหาอาหารตั้งแต่ตอนค่ำฉะนั้นการให้กาแฟจะให้ตอนเย็น
กลางคืนชะมดจะตื่นมาทานผลกาแฟ เมื่อชะมดกินเข้าไปแล้ว
ผลกาแฟจะย่อยอยู่ในกระเพาะของมัน ซึ่งเอนไซม์ในท้องของมันจะย่อยเยื่อกาแฟทำให้เกิดการหมักบ่มแล้วถ่ายเป็นเมล็ดออกมา เช้ามืดจึงจะเก็บเมล็ดกาแฟขี้ชะมดออกมาค้ดแยกพร้อมทั้งเก็บกวาด ทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อภาชนะทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนนำกาแฟจากขี้ชะมดไปตากแห้ง การให้ชะมดทานกาแฟสด จะให้ทานเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์เท่านั้น เสาร์อาทิตย์ก็เป็นอาหารอย่างอื่นเช่น กล้วย มะละกอ ไข่ เนื้อ และอาหารบำรุงอย่างอื่น อีกทั้งหมั่นตรวจเช็คเรื่องความสะอาดของฟาร์มชะมดตลอด
สอบถาม/สั่งซื้อกาแฟชะมด
gaotopai@gmail.com


